วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขอยอมเพ่ง.. ดีกว่าหลงนาน

หลง.. หลง.. หลง.. หลงไปคิด.. เป็นทั้งวัน.. มันจะคิดอะไรได้ทั้งวัน..
คนบ้าหรือปล่าวเนี้ย..

น่าจะเป็นบ้า.. คนอะไรคิดได้ทุกเวลา.. ไม่เลือกสถานที่และเวลา..

ยอมรับว่า.. ไม่ชอบกับการหลงคิดนี้เท่าไหร่.. เพราะมันดูตลกสิ้นดี.. ("มัน" นี่เป็นใคร?)

แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง.. ก็เพราะเริ่มเห็นว่า.. "คิด" นั่นเอง เพราะแต่ก่อนมันหลงแบบไม่รู้ว่าตัวเองคิด.. ถึงไม่รู้ว่าตัวเองหลงอยู่.. พอเริ่มรู้สึกตัวเป็น.. ก็เลยรู้ว่าตัวเองหลงบ่อยนั่นเอง.. งงไหม

ยกตัวอย่าง.. เคยมีใครทักหรือทักใครไหมเวลา.. ตัวเองหรือคนที่เราทัก.. กำลังกระดิกเท้าแล้วไปทำให้โต๊ะสั่น.. น่าจะเคยนะ.. นั่นขนาดโต๊ะสั่นยังไม่รู้สึกตัวเลย.. แล้วนี่กับการหลงไปคิด.. จะไม่เป็นบ้างเลยหรือ??

ไม่อยากหลง.. เพ่งเลยดีกว่าไหม.. สำหรับตัวเองขอบอกว่า.. ขอเพ่งดีกว่า.. แต่แบบเบาๆ นะครับ เพราะ.. ธรรมชาติของจิต มันหลงอยู่แล้ว.. และชอบหลงไปที่เป็นอกุศลด้วย.. มันต้องมีก้านมะยมคอยกำหราบบ้าง..

เพราะถ้าลองไม่เพ่งดูนะ.. หลงจริงๆ.. หลงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่า กายใจมีอยู่ในโลกใบนี้..

แต่ก่อนก็เป็นห่วงนะ.. เพราะหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านจะพูดไว้ตลอดว่า เพ่งมันไม่ดี.. ทำให้เรากลัวว่าจะเพ่ง เลยออกแนวหลงนาน เป็นส่วนใหญ่.. แต่พอลองได้ไปสัมผัสกับนักปฏิบัติธรรมท่านอื่น.. ที่ได้ไปปฏิบัติวิปัสนา.. ทำให้เรารู้เลยว่า.. คำว่า "เพ่ง" ที่หลวงพ่อท่านพูดนั่นเป็นอย่างไร..

สำหรับตัวเองแล้ว.. คิดว่าที่ตัวเองเพ่งอยู่.. น่าจะเป็นเด็กๆ เลยมั้ง.. เพราะขนาดมีผัสสะเบามากระทบ จิตก็ไหวแล้ว..

ในการเพ่งของตัวเองจะเอา.. การปวดหัว.. การแน่นที่อก.. การหายใจไม่เป็นธรรมชาติ.. เป็นตัวบอกระดับของการเพ่งว่า.. ถ้าถึงอาการเหล่านี้.. ถือว่าเพ่งแรงไป..

แล้วเอาเพ่งมาทำอะไร.. มาดูลงไปเลยว่า.. ตอนนี้กายหรือความคิด.. อะไรเด่นกว่ากันก็ดูไปตรงๆ.. ดูได้บ้างดูไม่ได้บ้าง.. ก็ทำไปเรื่อยๆ.. ถ้ามีอาการเพ่งแรง.. ก็ให้รู้ไปเลยว่าเพ่งแรง.. ถ้ายังไม่หายก็.. ก็รู้ว่าไม่หาย.. ดูลูกเดียว.. ตั้งขอบเขตเลยว่าจะไม่ดูเกินกายกับใจของตัวเอง..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น