ช่วงนี้ คุณแม่บ้าน บ่นว่า รู้สึกเบื่อ ไปหมด (สงสัยจะเบื่อเราด้วย แหละ) เลยนึกถึง สภาวะตัวเอง มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่พอปฏิบัติธรรม แล้วมีความรู้สึกว่า โลกนี้ไม่มีอะไรเลย รู้สึกว่าทุกสิ่ง ทุกอย่าง น่าเบื่อไปหมด
ช่วงนั้น ต้องเดินทาง ไปดูโรงงานที่ประเทศจีน บริษัท ได้พาไปที่สวนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคำกล่าวของคนจีนว่า "บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูหาง" ซึ่งพอไปถึงจริงๆ ก็ดูธรรมดา ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร อาจจะเพราะยังอยู่ในช่วงที่กำลังเบื่อโลกอยู่
แต่มีจุดหนึ่ง คือนกเป็ดน้ำ ในสวนนี้ เป็นสัตว์ชนิดเดียว ที่อาศัยอยู่ในสวน ความคิดแรกที่เห็น นกเป็ดน้ำ เกิดกระบวนการทำงานของจิต เริ่มจากผัสสะกระทบทางตา เกิดสัญญา หมายรู้ในเรื่องราว ของคนสร้างสวนแห่งนี้ ที่รัก สวนแห่งนี้มาก เมื่อสัญญาเทียบเคียงกับผัสสะ ที่กระทบได้แล้ว สังขารเริ่มดำเนินการ ปรุงแต่งเรื่องราว ว่าเป็ดพสกนิกรชาติก่อน อาจจะเคย เป็นคนสร้างสวนนี้มาก่อน เพราะมีความผูกพันกันสวนแห่งนี้มาก เมื่อสังขารปรุงแต่งแล้ว เวทนาจะสรุปเรื่องราวนี้ว่า ชอบหรือไม่ชอบ จิตก็จะดำเนินการ เก็บเป็นข้อมูลต่อไป
ซึ่งเมื่อเราเจอผัสสะอะไร ที่เทียบเคียงกับสัญญานี้ได้อีก เรื่องราวเหล่านี้ ก็จะผุดขึ้นมาได้อีก ซึ่งถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าสัญญาเหล่านี้ เป็นการสะสมเพื่อเพิ่มความมีตัวตน ให้แน่นขึ้นไปอีก..
กลับมาเรื่องความเบื่อ ที่เกิดขึ้นช่วงนั้น ผู้เขียนเองก็พยายามดิ้นรนหาทางแก้ หรือไปปรุงแต่งว่า สงสัยเข้าใกล้เส้นทาง แล้วมั้ง วันหนึ่งเจอพี่ที่เป็นกัลยาณมิตร เลยถามสภาวะนี้ ให้ฟัง พี่เขาตอบมาคำเดียว ก็ดูมันไป เดี๋ยว มันก็หาย มันไม่เที่ยง แต่ตอนนั้น จิตมันไม่ยอมรับเท่าไหร่ เหมือนอยากได้ยิน ว่าต้องไปทำอะไรเพื่อให้มันหาย เมื่อไปเจอคำตอบ แบบนี้ เลยไม่ค่อยยอมรับ
สภาวะแห่งความเบื่อนี้ เกิดขึ้นนานเลย ถึงแม้นตอนนั้นก็ยังเจริญสติเหมือนเดิม แต่จากที่สังเกตุ สิ่งพลาดที่เกิดสภาวะนั้น แล้วไม่หายน้าจะมาจากการ ที่เราไม่ชอบ แต่ไม่เห็นจิตไม่ชอบ เพราะจิตไม่ตั้งมั่นพอ ที่จะเห็นจิตที่ละเอียดแบบนั้น.. แต่ก็ยังนับว่าโชคดี ที่รู้ว่าสภาวะของความเบื่อนี้ ไม่ใช่สภาวะแห่งการหลุดพ้น ไม่งั้นคงจะติดนานกว่านี้แน่
ตอนนี้เลยตั้งกฎ "ไว้ตลอดว่า ไม่ต้องสนใจว่าจะเกิดสภาวะอะไร ตามรู้สภาวะเกิดขึ้นตอนนั้นเลย ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ กับสิ่งเคยเกิดขึ้นไปแล้ว"